10 เรื่องที่สาว ๆ ควรรู้ก่อนคิดตัดสินใจ สักคิ้วแบบลายเส้น
(Microblading) หรือการสักคิ้ว 3 มิติ หรือ สักคิ้ว 6 มิติ
ที่ช่วยให้คิ้วดูเรียงตัวสวยแบบธรรมชาติ มาดูกันสิว่า
มีเรื่องใดที่คุณควรรู้และต้องเตรียมตัวก่อนไปสักคิ้วกันบ้าง
หากพูดถึงคิ้วแล้ว คงเป็นอีกหนึ่งอวัยวะบนร่างกายที่สาว ๆ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นยกให้เป็นมงกุฎของหน้ากันเลยทีเดียว เพราะหากคิ้วสวยเป๊ะปังแล้ว ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูดีมีเสน่ห์ขึ้นได้ง่าย ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาว ๆ ถึงใช้เวลานานในการเขียนคิ้วแต่ละครั้ง แต่สาว ๆ บางคนก็เลือกวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่านั้นอย่างการสักคิ้วถาวร ที่ช่วยให้สาว ๆ มีคิ้วสวยได้ดั่งใจ โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนคิ้วให้ยุ่งยาก แต่นวัตกรรมการสักคิ้วในปัจจุบัน ก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างล่าสุดกับ การสักคิ้วแบบลายเส้น (Microblading) ที่มีทั้งแบบสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ ซึ่งแตกต่างกันไปตามความพลิ้วสวยของขนคิ้ว ซึ่งการสักคิ้วแบบลายเส้นนี้กำลังเป็นที่สนใจของสาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักคิ้วแบบทั่วไปนั่นเอง
ซึ่งหากสาว ๆ
คนไหนคิดอยากจะลองสักคิ้วลายเส้น 3 มิติและ 6 มิติดูละก็
วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีข้อควรรู้และคำแนะนำดี ๆ ก่อนการสักคิ้วมาฝากกัน
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง รู้ไว้จะได้ไม่พลาดค่ะ...
1. สักคิ้วแบบลายเส้นต่างจากสักคิ้วทั่วไปอย่างไร ?
การสักคิ้วแบบลายเส้น (Microblading) เป็นการสักคิ้วที่ใช้เทคนิคการวาดลายเส้นเฉพาะตัว ทำให้ได้เส้นคิ้วที่เล็ก เรียงทรงสวย และกลมกลืนไปกับขนคิ้วธรรมชาติราวกับขนคิ้วจริง อีกทั้งหมึกที่ใช้สักยังมีส่วนผสมที่ช่วยให้สีคิ้วไม่เพี้ยนและจางหายง่าย ๆ ซึ่งต่างจากการสักคิ้วแบบทั่วไปที่จะค่อนข้างดูหนา และไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังต้องใช้เวลากว่าสีของคิ้วจะจางลง ทั้งยังมีโอกาสสีคิ้วเพี้ยนได้อีกด้วย
2. สักคิ้วแบบลายเส้นทำอย่างไร ?
การสักคิ้วแบบลายเส้น คือ การสักคิ้วแบบเป็นเส้น ๆ ให้คล้ายกับขนคิ้วจริงมากที่สุด เป็นการสร้างลายเส้นโดยใช้เข็มที่เรียงตัวเหมือนใบมีด แทนการใช้เครื่องสักแบบทั่วไป ซึ่งการใช้เข็มไมโครเบลดดิ้ง (Microblading) นี้ จะช่วยเน้นเส้นคิ้วให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด อีกทั้งการสักคิ้ว 3 มิติ หรือ สักคิ้ว 6 มิติแบบลายเส้น เป็นงานละเอียดและค่อนข้างพิถีพิถัน ทำได้ยาก และใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะต้องสักขนคิ้วทีละเส้น ๆ จนกว่าจะครบแบบที่กำหนดไว้
3. สักคิ้ว 3 มิติและ 6 มิติ อยู่ได้นานเท่าไร ?
การสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ นั้นจะให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 2-3 ปี เเละจะค่อย ๆ จางหายไปเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของแต่ละคน ถ้าผิวแห้งจะติดทนนานกว่าผิวมัน เพราะคนผิวมันจะมีความมันของใบหน้าซึ่งทำให้ดูดสีจางเร็วกว่าคนผิวแห้งหรือผิวผสม แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับการดูแลและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วยเช่นกันค่ะ
4. สักคิ้วแบบลายเส้น เหมาะกับใครบ้าง
การสักคิ้ว 3 มิติ และ 6 มิติ แบบลายเส้นนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่พอมีขนคิ้วอยู่บ้าง แต่ต้องการเติมเต็มทรงคิ้วให้สวยเป๊ะ สำหรับคนที่มีคิ้วบาง ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่อาจจะไม่สวยเนียนเท่าคนมีขนคิ้วเท่าไรนัก นอกจากนี้ การสักคิ้วแบบลายเส้น ยังไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ รวมไปถึงผู้มีแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ได้ง่าย เพราะอาจเกิดแผลเป็นทับรอยสักได้ค่ะ
5. สักคิ้ว 3 มิติ และ 6 มิติ เจ็บมากไหม ?
ในการสักคิ้วแบบลายเส้นนี้ จะมีการป้ายยาชาบริเวณคิ้วก่อนทำการสักคิ้วอยู่แล้ว ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจรู้สึกแสบ ๆ บ้างขณะที่ทำ ซึ่งช่างก็จะคอยป้ายยาชาให้ตลอดจนกว่าจะทำเสร็จ แต่บางร้านสักก็อาจไม่มีการใช้ยาชา อย่างไรแล้วก็ควรศึกษาหาข้อมูลร้านสักและช่างสักดี ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจสักคิ้วนะคะ
6. ลักษณะและอาการหลังสักคิ้ว
หลังสักคิ้วเสร็จใหม่ ๆ เมื่อยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว สาว ๆ อาจรู้สึกแสบ ๆ ตึง ๆ บริเวณคิ้วที่เพิ่งสักไปบ้างเล็กน้อย และอาจมีอาการบวมแดงบ้างประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความบอบบางและสภาพผิว และในช่วงแรกสีคิ้วจะยังไม่ตรงกับเฉดสีที่เลือกไว้ในทันที โดยในช่วง 2-3 วันแรก สีคิ้วจะดูเข้มและดูหนาดกดำกว่าที่คิดไว้ แต่เมื่อคิ้วค่อย ๆ ตกสะเก็ด สีจะดรอปลงไปประมาณ 50% และคิ้วจะค่อย ๆ เข้ารูปเล็กลง ได้ทรงสวยตามที่ต้องการ
7. หลังสักคิ้ว ควรดูแลรักษาอย่างไร ?
ในช่วง 3 วันแรกหลังการสักคิ้ว สาว ๆ ควรระมัดระวังอย่าให้คิ้วโดนน้ำเชียวนะคะ โดยอาจเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ไปก่อน แต่หากอยากล้างหน้าจริง ๆ แนะนำว่าให้ทาวาสลีนเคลือบคิ้วเพื่อกันน้ำ เวลาล้างหน้าก็ควรล้างอย่างเบามือ ไม่ถูแรง ๆ รวมไปถึงงดว่ายน้ำ งดอบซาวน่า และงดออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เหงื่อไหลโดนคิ้วได้ ที่สำคัญเมื่อแผลมีการตกสะเก็ดแล้ว ไม่ควรแคะ แกะ หรือเกา เพราะอาจทำให้สีคิ้วไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดการติดเชื้อได้ค่ะ
8. หลังสักคิ้ว สามารถแต่งหน้าได้ไหม ?
สาว ๆ ที่เพิ่งไปสักคิ้ว 3 มิติ หรือสักคิ้ว 6 มิติ มาสามารถแต่งหน้าได้ปกติค่ะ เพียงแต่ต้องเว้นพื้นที่ทารองพื้นหรือลงแป้งให้ห่างจากบริเวณที่สักคิ้วสักหน่อยนะคะ และถึงแม้จะแต่งหน้าได้ แต่ก็ห้ามเขียนคิ้วเด็ดขาด โดยควรเว้นระยะไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ รอให้คิ้วลอกและแผลหายสนิทดีก่อนจึงจะเขียนคิ้วได้ค่ะ
9. อาหารที่ไม่ควรทานหลังสักคิ้ว มีอะไรบ้าง ?
สาว ๆ ที่เพิ่งสักคิ้วเสร็จใหม่ ๆ ควรงดอาหารทะเลรวมถึงของที่มีรสเผ็ดร้อน อย่างเช่น พริก ขิง ข่า รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้อาจจะไปขับสีคิ้วที่สักไว้ ซึ่งจะทำให้สีคิ้วที่สักมาติดได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ
10. เตรียมตัวก่อนไปสักคิ้วอย่างไร ?
ก่อนทำการสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ แบบลายเส้นนั้น สาว ๆ ควรเตรียมตัวให้พร้อมแต่เนิ่น ๆ เช่น ดูแลผิวหน้าให้สะอาด งดตากแดดแรง ๆ รวมไปถึงงดขัดหน้า และลอกผิวหน้า เพราะผิวอาจบอบบางระคายเคืองได้ง่าย รวมไปถึงควรงดดื่มแอลกอฮอล์ที่อาจมีผลต่อการสมานแผล และที่สำคัญควรเลือกร้านสักคิ้วที่น่าเชื่อถือ มีช่างสักคิ้วที่มีฝีมือและมีประสบการณ์ จะได้สักคิ้วให้ออกมาสวยดั่งใจยังไงล่ะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะสาว ๆ ได้รู้ข้อมูลดี ๆ ของการสักคิ้วแบบลายเส้น อย่างการสักคิ้ว 3 มิติ และการสักคิ้ว 6 มิติ ไปแล้ว หวังว่าคงช่วยให้สาว ๆ รู้สึกมั่นใจและพร้อมที่จะทำสวยให้คิ้วกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ เพราะแค่เตรียมตัวให้พร้อม ยังไงก็ไม่มีพลาดอยู่แล้วล่ะค่ะ ^_^
ข้อมูลจาก : goodhousekeeping.com, huffingtonpost.com, thetalko.com
หากพูดถึงคิ้วแล้ว คงเป็นอีกหนึ่งอวัยวะบนร่างกายที่สาว ๆ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นยกให้เป็นมงกุฎของหน้ากันเลยทีเดียว เพราะหากคิ้วสวยเป๊ะปังแล้ว ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูดีมีเสน่ห์ขึ้นได้ง่าย ๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาว ๆ ถึงใช้เวลานานในการเขียนคิ้วแต่ละครั้ง แต่สาว ๆ บางคนก็เลือกวิธีที่ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่านั้นอย่างการสักคิ้วถาวร ที่ช่วยให้สาว ๆ มีคิ้วสวยได้ดั่งใจ โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียนคิ้วให้ยุ่งยาก แต่นวัตกรรมการสักคิ้วในปัจจุบัน ก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างล่าสุดกับ การสักคิ้วแบบลายเส้น (Microblading) ที่มีทั้งแบบสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ ซึ่งแตกต่างกันไปตามความพลิ้วสวยของขนคิ้ว ซึ่งการสักคิ้วแบบลายเส้นนี้กำลังเป็นที่สนใจของสาว ๆ เป็นอย่างมาก เพราะให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักคิ้วแบบทั่วไปนั่นเอง
การสักคิ้วแบบลายเส้น (Microblading) เป็นการสักคิ้วที่ใช้เทคนิคการวาดลายเส้นเฉพาะตัว ทำให้ได้เส้นคิ้วที่เล็ก เรียงทรงสวย และกลมกลืนไปกับขนคิ้วธรรมชาติราวกับขนคิ้วจริง อีกทั้งหมึกที่ใช้สักยังมีส่วนผสมที่ช่วยให้สีคิ้วไม่เพี้ยนและจางหายง่าย ๆ ซึ่งต่างจากการสักคิ้วแบบทั่วไปที่จะค่อนข้างดูหนา และไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังต้องใช้เวลากว่าสีของคิ้วจะจางลง ทั้งยังมีโอกาสสีคิ้วเพี้ยนได้อีกด้วย
2. สักคิ้วแบบลายเส้นทำอย่างไร ?
การสักคิ้วแบบลายเส้น คือ การสักคิ้วแบบเป็นเส้น ๆ ให้คล้ายกับขนคิ้วจริงมากที่สุด เป็นการสร้างลายเส้นโดยใช้เข็มที่เรียงตัวเหมือนใบมีด แทนการใช้เครื่องสักแบบทั่วไป ซึ่งการใช้เข็มไมโครเบลดดิ้ง (Microblading) นี้ จะช่วยเน้นเส้นคิ้วให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด อีกทั้งการสักคิ้ว 3 มิติ หรือ สักคิ้ว 6 มิติแบบลายเส้น เป็นงานละเอียดและค่อนข้างพิถีพิถัน ทำได้ยาก และใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะต้องสักขนคิ้วทีละเส้น ๆ จนกว่าจะครบแบบที่กำหนดไว้
3. สักคิ้ว 3 มิติและ 6 มิติ อยู่ได้นานเท่าไร ?
การสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ นั้นจะให้ผลลัพธ์ได้นานประมาณ 2-3 ปี เเละจะค่อย ๆ จางหายไปเป็นปกติ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวของแต่ละคน ถ้าผิวแห้งจะติดทนนานกว่าผิวมัน เพราะคนผิวมันจะมีความมันของใบหน้าซึ่งทำให้ดูดสีจางเร็วกว่าคนผิวแห้งหรือผิวผสม แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับการดูแลและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนด้วยเช่นกันค่ะ
4. สักคิ้วแบบลายเส้น เหมาะกับใครบ้าง
การสักคิ้ว 3 มิติ และ 6 มิติ แบบลายเส้นนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่พอมีขนคิ้วอยู่บ้าง แต่ต้องการเติมเต็มทรงคิ้วให้สวยเป๊ะ สำหรับคนที่มีคิ้วบาง ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่อาจจะไม่สวยเนียนเท่าคนมีขนคิ้วเท่าไรนัก นอกจากนี้ การสักคิ้วแบบลายเส้น ยังไม่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ รวมไปถึงผู้มีแผลเป็นนูน (คีลอยด์) ได้ง่าย เพราะอาจเกิดแผลเป็นทับรอยสักได้ค่ะ
5. สักคิ้ว 3 มิติ และ 6 มิติ เจ็บมากไหม ?
ในการสักคิ้วแบบลายเส้นนี้ จะมีการป้ายยาชาบริเวณคิ้วก่อนทำการสักคิ้วอยู่แล้ว ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ แต่อาจรู้สึกแสบ ๆ บ้างขณะที่ทำ ซึ่งช่างก็จะคอยป้ายยาชาให้ตลอดจนกว่าจะทำเสร็จ แต่บางร้านสักก็อาจไม่มีการใช้ยาชา อย่างไรแล้วก็ควรศึกษาหาข้อมูลร้านสักและช่างสักดี ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจสักคิ้วนะคะ
หลังสักคิ้วเสร็จใหม่ ๆ เมื่อยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว สาว ๆ อาจรู้สึกแสบ ๆ ตึง ๆ บริเวณคิ้วที่เพิ่งสักไปบ้างเล็กน้อย และอาจมีอาการบวมแดงบ้างประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความบอบบางและสภาพผิว และในช่วงแรกสีคิ้วจะยังไม่ตรงกับเฉดสีที่เลือกไว้ในทันที โดยในช่วง 2-3 วันแรก สีคิ้วจะดูเข้มและดูหนาดกดำกว่าที่คิดไว้ แต่เมื่อคิ้วค่อย ๆ ตกสะเก็ด สีจะดรอปลงไปประมาณ 50% และคิ้วจะค่อย ๆ เข้ารูปเล็กลง ได้ทรงสวยตามที่ต้องการ
7. หลังสักคิ้ว ควรดูแลรักษาอย่างไร ?
ในช่วง 3 วันแรกหลังการสักคิ้ว สาว ๆ ควรระมัดระวังอย่าให้คิ้วโดนน้ำเชียวนะคะ โดยอาจเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่งออยล์ไปก่อน แต่หากอยากล้างหน้าจริง ๆ แนะนำว่าให้ทาวาสลีนเคลือบคิ้วเพื่อกันน้ำ เวลาล้างหน้าก็ควรล้างอย่างเบามือ ไม่ถูแรง ๆ รวมไปถึงงดว่ายน้ำ งดอบซาวน่า และงดออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เหงื่อไหลโดนคิ้วได้ ที่สำคัญเมื่อแผลมีการตกสะเก็ดแล้ว ไม่ควรแคะ แกะ หรือเกา เพราะอาจทำให้สีคิ้วไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดการติดเชื้อได้ค่ะ
8. หลังสักคิ้ว สามารถแต่งหน้าได้ไหม ?
สาว ๆ ที่เพิ่งไปสักคิ้ว 3 มิติ หรือสักคิ้ว 6 มิติ มาสามารถแต่งหน้าได้ปกติค่ะ เพียงแต่ต้องเว้นพื้นที่ทารองพื้นหรือลงแป้งให้ห่างจากบริเวณที่สักคิ้วสักหน่อยนะคะ และถึงแม้จะแต่งหน้าได้ แต่ก็ห้ามเขียนคิ้วเด็ดขาด โดยควรเว้นระยะไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ รอให้คิ้วลอกและแผลหายสนิทดีก่อนจึงจะเขียนคิ้วได้ค่ะ
9. อาหารที่ไม่ควรทานหลังสักคิ้ว มีอะไรบ้าง ?
สาว ๆ ที่เพิ่งสักคิ้วเสร็จใหม่ ๆ ควรงดอาหารทะเลรวมถึงของที่มีรสเผ็ดร้อน อย่างเช่น พริก ขิง ข่า รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้อาจจะไปขับสีคิ้วที่สักไว้ ซึ่งจะทำให้สีคิ้วที่สักมาติดได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ
10. เตรียมตัวก่อนไปสักคิ้วอย่างไร ?
ก่อนทำการสักคิ้ว 3 มิติ และสักคิ้ว 6 มิติ แบบลายเส้นนั้น สาว ๆ ควรเตรียมตัวให้พร้อมแต่เนิ่น ๆ เช่น ดูแลผิวหน้าให้สะอาด งดตากแดดแรง ๆ รวมไปถึงงดขัดหน้า และลอกผิวหน้า เพราะผิวอาจบอบบางระคายเคืองได้ง่าย รวมไปถึงควรงดดื่มแอลกอฮอล์ที่อาจมีผลต่อการสมานแผล และที่สำคัญควรเลือกร้านสักคิ้วที่น่าเชื่อถือ มีช่างสักคิ้วที่มีฝีมือและมีประสบการณ์ จะได้สักคิ้วให้ออกมาสวยดั่งใจยังไงล่ะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะสาว ๆ ได้รู้ข้อมูลดี ๆ ของการสักคิ้วแบบลายเส้น อย่างการสักคิ้ว 3 มิติ และการสักคิ้ว 6 มิติ ไปแล้ว หวังว่าคงช่วยให้สาว ๆ รู้สึกมั่นใจและพร้อมที่จะทำสวยให้คิ้วกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ เพราะแค่เตรียมตัวให้พร้อม ยังไงก็ไม่มีพลาดอยู่แล้วล่ะค่ะ ^_^
ข้อมูลจาก : goodhousekeeping.com, huffingtonpost.com, thetalko.com